วิธีการเลือกไวน์ที่เหมาะสม สำหรับงานเลี้ยงอาหารค่ำของคุณ

ไวน์ขาวเสิร์ฟกับปลา ไวน์แดงเสิร์ฟกับเนื้อวัว และคุณควรเสิร์ฟสปาร์คกลิ้งไวน์เมื่อแขกเดินทางมาถึงเท่านั้นใช่หรือไม่? ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เลย แม้ว่าจะมีภูมิปัญญาในการจับคู่ไวน์เป็นขนบธรรมเนียมแบบนี้ แต่การเลือกไวน์ที่เหมาะสมสำหรับงานเลี้ยงอาหารค่ำของคุณนั้น ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ที่แน่นอนตรงตัวทุกครั้งไป – ซึ่งนั่นทำให้การค้นหาไวน์ที่ใช่นั้นสนุกสนาน และเพลิดเพลินยิ่งขึ้น!

คุณสมบัติที่ทำให้ไวน์ชนิดหนึ่งเข้ากันได้ดีกับปลาแซลมอนราดซอสมิโซะอย่างสมบูรณ์แบบ และช็อกโกแลตฟอนดันท์อีกชิ้นของคุณที่แสนอร่อยราวกับความฝันนั้น ต้องการมากกว่าสีสันและฟอง ยังต้องมีปัจจัยด้านความเป็นกรด ระดับแทนนิน ความหนาเเน่น รสสัมผัส และระดับความหวานของไวน์ สิ่งเหล่านี้ล้วนมีส่วนสำคัญในการจับคู่ เพื่อให้ได้ความสมบูรณ์แบบราวกับรสชาติจากสรวงสวรรค์

คุณได้ใช้ความพยายามและความคิดสร้างสรรค์มากมายในเมนูอาหารแล้ว ก้าวไปอีกขั้นด้วยการเลือกไวน์ของคุณ และคุณจะทำให้งานเลี้ยงอาหารค่ำของคุณออกมาสมบูรณ์แบบอย่างมืออาชีพ

สปาร์คกลิ้งไวน์

กล่าวถึงธรรมเนียมในการเสิร์ฟไวน์ฟองฟู่นี้ให้แก่ผู้มาเยือนที่มาร่วมมื้อค่ำ มีเหตุผลสามประการคือ มันช่วยสร้างบรรยากาศแบบงานปาร์ตี้ ดื่มแล้วทำให้คุณรู้สึกสดชื่นซาบซ่า และฟองซ่าของเครื่องดื่มจะพุ่งตรงไปในหัวของคุณ และทำให้คุณมีอารมณ์ร่วมในงานสังสรรค์นี้

แชมเปญมักถูกพิจารณาว่าเป็นเครื่องดื่มที่ใช้เสิร์ฟเมื่อแขกเดินทางมาถึง และเสิร์ฟเมื่อมีเหตุผลที่ดี แชมเปญคือสุดยอดของเครื่องดื่มแบบฟองฟู่ (แม้ว่าบางคนในลิโมว์และอังกฤษจะไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง) อย่างไรก็ตามในขณะที่บางคนชอบกลิ่นที่คล้ายกับขนมปังบริออชของแชมเปญ และความหนาแน่นที่สูง แต่สำหรับบางคนก็ชอบสปาร์คกลิ้งไวน์ที่มีรสสัมผัสที่เบาบางกว่าด้วยเหมือนกัน

หากคุณต้องการเครื่องดื่มฟองที่ดูดีมีคลาสและบรรยากาศเฉลิมฉลองแบบแชมเปญ แต่มีรสสัมผัสที่เบาบางกว่านี้ ให้ลองไวน์ Crémant, Cava, Prosecco หรือ English bubbly ซึ่ง Crémant คือรหัสเครื่องดื่มมีฟองของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งผลิตขึ้นตามมาตรฐานที่เข้มงวดเช่นเดียวกับแชมเปญ ในภูมิภาคอื่น ๆ ในฝรั่งเศส มีพื้นที่ที่ใช้ผลิตไวน์ Crémant อยู่แปดแห่งด้วยกัน ซึ่งในแต่ละแห่งจะผลิตไวน์ที่มีความหลากหลาย ดังนั้นคุณสามารถคาดหวังที่จะได้รับกลิ่นรสและสัมผัสที่หลากหลายได้ในแก้วของคุณ นอกจากนี้ไวน์ Cava จากประเทศสเปนยังผลิตด้วยกรรมวิธีดั้งเดิม แต่มีความเป็นกรดน้อยกว่าแชมเปญและสามารถดื่มได้ง่ายขึ้น

ไวน์ Prosecco จากประเทศอิตาลี ผลิตด้วยวิธีการบ่มครั้งที่สองในถัง ซึ่งทำให้เกิดฟองที่บางเบาและมีชีวิตชีวา ด้วยความที่มีกรดปานกลาง ผสานกลิ่นสดชื่นของเมลอนและแอปเปิ้ล และสัมผัสที่นุ่มนวลจากความหวานของไวน์ Valdobbiadene Prosecco Superiore DOCG Extra Dry จากผู้ผลิตชั้นนำอย่าง Villa Sandi คือไวน์ฟองผลไม้ที่มีรสชาติสดใหม่ และมีกลิ่นหอมดอกไม้ผสานมาด้วย ทำให้การเฉลิมฉลองนี้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

Villa Sandi Valdobbiadene Prosecco Superiore DOCG Extra Dry

แคว้นเวเนโต  · อิตาลี

เป็นตัวเลือกที่ดีในการช่วยเพิ่มรสชาติของอาหาร ไปได้ดีกับปลาหมักสมุนไพร และอาหารที่ใช้สมุนไพรในการทำ

Light
Body
Full
Dry
Sweetness
Sweet
Smooth
Tannins
Tannic
Soft
Acidity
Acidic
Gentle
Effervescence
Fizzy
เรียนรู้เพิ่มเติม

English bubbly นั้นก็คุ้มค่าที่จะลองเช่นกัน ซึ่งไวน์นี้ได้รับรางวัลระดับนานาชาติในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และมาจากแตร์รัวร์ (Terroir) ที่คล้ายกันกับแชมเปญ แต่มีความเป็นกรดและความหนาแน่นที่น้อยกว่า

อีกความสมบูรณ์แบบที่เหมาะสำหรับการดื่มเครื่องดื่มฟองฟู่กับขนมหวาน คือยิ่งหวานก็ยิ่งดีนั่นเอง ความรู้สึกซาบซ่าในปากถือเป็นเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่น และความหวานจะช่วยเพิ่มรสชาติให้แก่พุดดิ้งได้ดี ไวน์ Moscato d’Asti เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมมาก คุณสามารถเลือกไวน์ Prosecco Rosé ซึ่งมีรสชาตินำจากผลไม้สีแดงและดอกใม้ เช่น Villa Sandi Prosecco DOC Rose Millesimato 2019

Villa Sandi “Il Fresco” Prosecco DOC Rosé Millesimato

แคว้นเวเนโต  · อิตาลี

เป็นตัวเลือกที่ดีในการช่วยเพิ่มรสชาติอาหาร เหมาะกับอาหารที่ใช้มือทาน, linguine’s pasta, ชีสสด และขนมชิ้นเล็ก

Light
Body
Full
Dry
Sweetness
Sweet
Smooth
Tannins
Tannic
Soft
Acidity
Acidic
Gentle
Effervescence
Fizzy
เรียนรู้เพิ่มเติม

ไวน์ขาว

ไวน์ขาวมีแนวโน้มที่จะถูกจับคู่กับปลาและเนื้อสีขาวต่างๆ แต่รสชาติของอาหารเหล่านี้จะเป็นปัจจัยในการตัดสินใจที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้การจับคู่ที่สมบูรณ์แบบ

หากคุณกำลังเสิร์ฟอาหารที่รสชาติความเผ็ดร้อนของพริกและเครื่องเทศ ไวน์ขาวจะเป็นทางเลือกที่ดีอย่างแน่นอน แต่ควรเลือกด้วยความระมัดระวัง เลือกแบบออฟ-ดราย (off-dry) อย่างไวน์ Riesling, Pinot Gris หรือ Gewürztraminer จะเหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากมีความหวานเพียงเล็กน้อย ช่วยให้เย็นขึ้น และคลายความเผ็ดร้อนได้ โปรดจำไว้ว่าหากไวน์ขาวมีระดับแอลกอฮอล์สูง จะทำให้เกิดอาการแสบร้อนภายในปากจากอาหารเพิ่มขึ้นไปอีก แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป สุดท้ายแล้วขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนตัวของคุณเป็นที่ตั้ง

อาหารที่มีรสชาติเข้มข้นต้องเลือกใช้ไวน์การที่แตกต่างออกไป เนื่องจากเกลือมีส่วนในการลดความคมชัดของไวน์ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความสมดุลที่ดี เราควรเลือกไวน์ในสไตล์ที่มีความเป็นกรดสูง เช่น Sauvignon Blanc จากฝรั่งเศส หรือนิวซีแลนด์ หรือ Pinot Grigio จากอิตาลี ซึ่งไวน์โรเซ่มักจะเข้ากันได้ดีกับอาหารรสเค็ม

ไวน์แดง

หากเนื้อแดงเป็นอาหารหลักในเมนูปาร์ตี้มื้อค่ำของคุณ คุณต้องดูว่าเนื้อมีรสชาติเข้มข้นหรือเบาบางแค่ไหน เพื่อให้สามารถจับคู่กับไวน์แดงได้อย่างลงตัว และนี่คือเหตุผลที่แทนนินเข้ามามีบทบาท

เสิร์ฟสเต็กหรือว่าเนื้ออบ? ไวน์ที่มีแทนนินสูงอย่าง Cabernet Sauvignon จาก Napa Valley หรือ Shiraz จากออสเตรเลีย จะช่วยเพิ่มรสชาติให้โปรตีนในจานนั้นๆได้ เนื้อสัตว์ที่ปรุงรสมาอย่างประณีต เช่น เนื้อแกะ หรือหมู เข้ากันได้ดีกับไวน์ Malbec ที่มีความหนาแน่นระดับกลาง (medium-body) จากอาร์เจนตินา หรือ Pinot Noir ซึ่งเป็นสายพันธุ์องุ่นที่มีรสชาติบางเบาจากทั่วโลก

อย่ามองข้ามเรื่องซอส! หากจานเนื้อของคุณทานคู่กับซอสที่ทำจากมะเขือเทศ คุณจะต้องจับคู่กับไวน์ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น Sangiovese ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของไวน์ Chianti หรือ Tempranillo ซึ่งเป็นสายพันธ์องุ่นหลักในลาริโอฆา ส่วนซอสที่มีรสชาติแหลม เข้มข้น มีรสเผ็ด เช่น ฮอยซิน และซอสบาร์บีคิว ชอบมีผลไม้สักหน่อย ลองทานคู่กับไวน์ Californian Zinfandel, French Gamay, Italian Negromaro หรือแม้แต่ Lambrusco ก็เข้ากันได้ดีมาก 

ไวน์หวาน

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบขนมหวาน (หรือแม้ว่าจะไม่เป็นก็ตาม!) ก็มีโลกแห่งไวน์ที่หวานปานน้ำผึ้งสุดคลาสสิก ที่สามารถเข้าถึงสไตล์ความอร่อยของพวกเขาได้เป็นอย่างดี ซึ่งผ่านกรรมวิธีการผลิตอันประณีตมายาวนานหลายศตวรรษ เทคนิคการทำให้น้ำตาลเข้มข้นขึ้น ได้แก่ การอบแห้งองุ่น การแช่แข็ง และแม้แต่การเน่าเปื่อย! ไวน์หวานเป็นไวน์ที่สามารถใช้ประโยชน์หลากหลายที่สุด เนื่องจากสามารถจับคู่กับอาหารค่ำในงานเลี้ยงได้ทั้งหมด ตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อยไปจนถึงของหวาน

คุณรู้อยู่แล้วว่าไวน์หวานเข้ากันได้ดีกับอาหารที่มีรสชาติเผ็ดร้อน แต่ไวน์สไตล์นี้ก็เข้ากันได้ดีกับชีสอีกด้วย ในชีสเพลทเตอร์ที่มีบลูชีสหรือชีสเนื้อแข็งต่างๆนั้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับไวน์ Sauternes ที่แสนจะชุ่มฉ่ำและเข้มข้นจากบอร์โด ประเทศฝรั่งเศส ไวน์โทนเขตร้อนรสชาติหวานฉ่ำนี้ ยังดื่มคู่กับขนมหวานแบบครีมเนื้อละมุนได้ดีอีกด้วย

ไวน์ที่ผ่านกระบวนการพาสซิโต Recioto della Valpolicella มีรสช็อคโกแล็ตเชอร์รี่ที่เข้มข้นลุ่มลึก ช่วยเติมเต็มรสชาติของอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลสูง เช่น เนื้อเทอริยากิที่มีความเข้มข้นในตอนท้าย ไปจนถึงทีรามิสุสตรอเบอร์รี่ที่มีรสชาติตอนจบที่หวานหอม

นอกจากนี้ยังมีไวน์ Tokaji, Ice Wine และ Beerenauslese Riesling เพื่อการจับคู่กับขนมหวานและอาหารรสชาติเข้มข้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ฟอร์ติไฟด์ไวน์

หรือที่เรียกกันติดปากว่า “สติ๊กกี้ (stickies)” ฟอร์ติไฟด์ไวน์ได้รับการปรับปรุงสูตรในระหว่างการผลิตด้วยการผสมเหล้าเข้าไปด้วย โดยทั่วไปคือผสมบรั่นดีลงไป ซึ่งส่งผลให้ไวน์มีแอลกอฮอล์สูงและมีรสชาติเข้มข้นขึ้น จุดประสงค์เช่นเดียวกับไวน์หวาน ซึ่งไวน์เหล่านี้ทำให้สามารถจับคู่กับอาหารทั้งคาวและหวานได้อย่างหลากหลาย ตัวอย่างไวน์ยอดนิยม ได้แก่ Sherry และ Madeira

หากคุณมีดาร์กช็อกโกแลตรสหวานอยู่ในเมนู ลองไวน์ Madeira จากโปรตุเกสดูสิ อาจดูน่าแปลกใจที่รสชาติผลไม้อบแห้งและลูกกวาดของมัน ยังเข้ากันได้ดีกับซูชิและแม้แต่จานสลัดเบา ๆ อีกด้วย ไวน์ Amontillado Sherry จากสเปน ซึ่งมีความหวานและความเป็นกรด สามารถเข้ากันได้ดีกับอาหารเรียกน้ำย่อยและอาหารทะเลต่างๆ

หากคุณชอบเรื่องราวของฟอร์ติไฟด์ไวน์ในการจับคู่กับอาหาร มันคุ้มค่าแน่นอนที่จะสำรวจว่าไวน์ Tawny Port, Marsala และ Commandaria สามารถเพิ่มลงในเมนูปาร์ตี้มื้อค่ำของคุณได้อย่างไรบ้าง!

การจับคู่ไวน์กับเมนูปาร์ตี้มื้อค่ำเป็นเรื่องที่น่าสนใจและสนุกสนานมาก ซึ่งแนวทางที่ดีที่สุดคือ ความอยากรู้อยากเห็น กล้าได้กล้าเสีย มีเคล็ดลับและคำแนะนำบางอย่างเพื่อที่จะเพลิดเพลินไปกับการเดินทางนี้ ทานให้อร่อยและชนแก้ว!

ซื้อกลับบ้าน

Exit mobile version