วิธีหาเบียร์ที่เหมาะกับสไตล์ของคุณ
มันอาจเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาค่อนข้างนานในการค้นหาเบียร์ที่ใช่สำหรับคุณ เนื่องจากเบียร์มีหลากหลายประเภท และยิ่งซับซ้อนมากขึ้นไปอีก เมื่อเบียร์แต่ละประเภท แบ่งออกเป็นประเภทปลีกย่อยอีกมากมาย! และนี่คือเหตุผลที่บางคนอาจรู้สึกว่าพวกเขาไม่ชอบดื่มเบียร์ จนกระทั่งถึงเวลาที่พวกเขาพบกับเบียร์ที่ใช่สำหรับพวกเขา
แค่เพียงเปิดใจลองดื่มเบียร์หลาย ๆ ประเภท
คุณสามารถเริ่มต้นด้วยเบียร์ที่ธรรมดาที่สุด เช่น เบียร์คราฟต์ (craft), เบียร์เพล (pale), เบียร์เอล (ale), เบียร์ลาเกอร์ (lager), เบียร์สเตาท์ (stout) หรือ เบียร์พิลส์เนอร์ (pilsner) เพื่อทำความคุ้นเคยกับเบียร์ที่สามารถพบได้บ่อยที่สุดเหล่านี้ ซุปเปอร์มาร์เก็ตและคลับเบียร์บางแห่งมีบริการจัดแพ็คเบียร์ ซึ่งคุณสามารถเลือกเบียร์เองได้จำนวน 6 ขวด ดังนั้นคุณจึงสามารถลองดื่มเบียร์ได้ถึง 6 ประเภทในครั้งเดียว
นี่คือประเภทพื้นฐานของเบียร์ที่ให้รสชาติเด่ดชัดมากที่สุด
- เบียร์เอล (Ale) – เบียร์ตัวนี้เต็มไปด้วยรสชาติของผลไม้ สมุนไพรและฮ็อพ
- เบียร์ลาเกอร์ (Lager) – เบียร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีรสสดชื่นและขมเล็กน้อย
- เบียร์มอลต์ (Malt) – มีกลิ่นของคาราเมลและถั่ว มีรสชาติหวาน และโดยทั่วไปจะมีสีที่เข้มกว่าเบียร์เอลและเบียร์ลาเกอร์
- เบียร์สเตาท์ – มีสีเข้มเพราะทำมาจากข้าวบาร์เลย์คั่ว มีกลิ่นของคาราเมล ช็อคโกแลตทอฟฟี่ ถั่ว และอื่น ๆ
- เบียร์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูง – เบียร์กลุ่มนี้มีปริมาณแอลกอฮอล์มากกว่า 7% โดยทั่วไปแล้วมักมีสีเข้ม สีดำ และมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป
- เบียร์คราฟต์ – ผลิตโดยโรงงานผลิตเบียร์ขนาดเล็ก มีรสชาติแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับผู้ผลิตเบียร์เหล่านั้น
มันมีโอกาสที่คุณจะเจอกับรสชาติที่น่าผิดหวัง แต่อย่าได้ท้อถอย! เช่นเดียวกับเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ มันยังมีเบียร์ที่มีรสชาติดีกว่านี้รอคุณอยู่!
หากคุณไปที่ผับหรือร้านอาหารที่เปิดใหม่ อย่าลังเลที่จะเปิดใจลองเบียร์ใหม่ ๆ ดูบ้าง ตัวอย่างเช่นตัวของผมเอง ผมเจอเบียร์ไทเกอร์ คริสตัล (Tiger Crystal) ที่ผมตกหลุมรักที่สุดในตอนนี้ที่ผับใกล้บ้านของผม หลังจากที่ดื่มเบียร์ยี่ห้อลารู (Larue) มาหลายปี เบียร์ไทเกอร์ คริสตัล นั้นเต็มไปด้วยกลิ่นของดอกไม้และมันมีระดับความขมน้อย ซึ่งตรงกับรสชาติที่ผมตามหา
หลังจากที่คุณพบกับประเภทของเบียร์ที่คุณชื่นชอบแล้ว ให้ลองดื่มเบียร์ต่าง ๆ ในประเภทนั้น
เบียร์แต่ละยี่ห้อมีกระบวนการหมักเฉพาะของมัน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้ในการสร้างรสชาติและความเข้มข้นที่เป็นเอกลักษณ์ของเบียร์นั้น ๆ ดังนั้นประเภทเบียร์เอล (Ale ) ของเบียร์ยี่ห้อไทเกอร์ (Tiger) จะมีกลิ่นและระดับความขมที่แตกต่างกันหากเทียบกับเบียร์บัดไวเซอร์ (Budweiser), เบียร์ซัปโปโร (Sapporo) เป็นต้น และนี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่คุณควรจะออกไปจัดแพ็คเบียร์ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต!
ลองเบียร์ที่มีความแรงแตกต่างกัน
ปริมาณแอลกอฮอล์ของเบียร์ทั่วไปจะอยู่ในช่วง 4.5% ถึง 5.2% ซึ่งเหมาะสำหรับคนส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม หากคุณรู้สึกว่าเบียร์แรงเกินไป คุณสามารถเลือกดื่มเบียร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่น้อยลงและเบียร์ลาเกอร์ อีกทั้งคุณสามารถหาซื้อเบียร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์รสชาติต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยที่มันจะไม่ทำให้คุณเมา
ลองดื่มเบียร์นำเข้า
มีเบียร์นานาชาตินับพันชนิดทั่วโลก และคุณจะพลาดมากถ้าหากคุณไม่ลองดื่มมัน เบียร์นำเข้าถูกหมักด้วยส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำต่าง ๆ หรือชนิดของดอกฮ็อพ เป็นต้น ซึ่งท้ายที่สุดแล้วส่วนประกอบเหล่านี้ก็จะก่อให้เกิดรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของมัน
คุณสามารถลองเบียร์ยอดนิยมต่าง ๆ จากทั่วโลกได้ เช่น เบียร์บัดไวเซอร์ (อเมริกา), เบียร์ซัปโปโร (ญี่ปุ่น), เบียร์ Ottakringer (ออสเตรีย), เบียร์กินเนสส์ (ไอร์แลนด์), เบียร์ช้าง (ไทย), เบียร์ไซ่ง่อน (เวียดนาม) เบียร์เหล่านี้เป็นที่นิยมและสามารถหาซื้อได้ง่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วโลก
3 สุดยอดเคล็ดลับในการค้นหาเบียร์ที่เหมาะกับคุณ
ชิมเบียร์อย่างถูกต้อง
มีหลายคนที่ผมรู้จัก ซึ่งไม่ได้ดื่มเบียร์อย่างถูกวิธี จริง ๆ แล้วมันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณสามารถได้จากการจิบเบียร์ ก่อนตัดสินใจว่าคุณชอบเบียร์นั้นหรือไม่ คุณควรจิบมันสักเล็กน้อยและสังเกตถึงรสชาติต่าง ๆ ที่ผสมผสานอยู่ในรสชาติโดยรวมของเบียร์นั้น
สูดกลิ่นเบียร์เพื่อดมกลิ่นของมัน บางครั้งคุณสามารถระบุกลิ่นต่าง ๆ ในเบียร์ได้ เช่น ดอกไม้, ถั่ว, สมุนไพร, ควัน เนื่องจากเบียร์มีน้ำมันหอมระเหยมากกว่า 250 ชนิด จึงทำให้การดมเบียร์เป็นขั้นตอนสำคัญในการลิ้มลองเบียร์นั้น ๆ
จิบเบียร์เพียงเล็กน้อยแล้วกลัวในปากของคุณเพื่อประเมินรสชาติและรับรสของเบียร์นั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติของความเป็นกรด, ความขม, ความหวาน, ระดับของมอลต์และรสชาติโดยรวมของมัน ความพึงพอใจในรสชาติของเบียร์มักจะเกิดขึ้นจากเบียร์ที่มีฟองในระดับที่เหมาะสมของเบียร์ที่มีรสเข้ม
ดื่มเบียร์ที่อุณหภูมิที่ถูกต้อง
เบียร์ถูกเสิร์ฟที่อุณหภูมิแตกต่างกันเพื่อรักษารสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของมัน ซึ่งตามกฎหัวแม่มือนั้นเบียร์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำมักจะถูกเสิร์ฟที่อุณหภูมิต่ำ (1-7 องศาเซลเซียส) ในขณะเดียวกันเบียร์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงและเบียร์ที่มีสีเข้มจะมีรสชาติดีที่สุดเมื่อเสิร์ฟที่อุณหภูมิห้อง
นอกจากนี้ มันไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องเติมน้ำแข็งลงไปในเบียร์ของคุณ ถ้าหากว่าเบียร์นั้นมันเย็นอยู่แล้ว ก้อนน้ำแข็งจะเจือจางเบียร์ของคุณ ทำให้ความเข้มข้นหายไปและเสียรสชาติ
ใช้แก้วที่ถูกต้อง
แก้วที่เบียร์ถูกเทลงไปนั้นอาจมีผลต่อรสชาติของมัน คุณอาจเคยสังเกตว่าเบียร์ที่มีฟองมักถูกเสิร์ฟในแก้วพิลส์เนอร์ทรงสูง เบียร์สดจะถูกเสิร์ฟในแก้ว และเบียร์ที่บรรจุขวดนั้นก็ถือว่ามีรสชาติที่ดีกว่าเบียร์กระป๋อง
เคล็ดลับที่มีประโยชน์อีกอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อใดก็ตามที่เปิดกระป๋องเบียร์หรือขวดเบียร์แล้ว คุณควรดื่มมันให้หมดในครั้งเดียวหรือไม่ก็ทิ้งมันไปซะ ที่ผมแนะนำให้ทำเช่นนี้เพราะว่าการสัมผัสของเบียร์กับออกซิเจนในอากาศนั้นส่งผลให้รสชาติของเบียร์แย่ลง เบียร์ที่เหลืออยู่จึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการดื่ม
และท้ายที่สุด เบียร์ที่เหมาะกับคุณที่สุดในโลกก็คือเบียร์ที่คุณชื่นชอบมากที่สุด หากคุณยังไม่พบกับเบียร์ที่ใช่ก็อย่าเพิ่งท้อถอยนะครับ เพราะว่ายังมีเบียร์อีกนับพันที่รอให้คุณค้นหาอยู่ และบางครั้งมันก็ไม่ใช่ปลายทางสุดท้ายที่สำคัญที่สุดนะครับ แต่ในระหว่างการเดินทางสู่การค้นพบในครั้งนี้ต่างหากล่ะครับที่สำคัญที่สุด!