หากคุณเป็นมือใหม่ในการชิมไวน์แล้วล่ะก็ การชิมไวน์แบบไบลนด์เทสติ้งจะช่วยให้คุณลิ้มลองไวน์ต่าง ๆ ได้มากขึ้นและทำให้คุณเกิดความคุ้นเคยกับคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ต่าง ๆ ของไวน์ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถแยกแยะสายพันธุ์องุ่นและแหล่งผลิตต่าง ๆ ออกจากกันได้
อ่านต่อเพื่อพบกับเคล็ดลับในการจัดกิจกรรมการชิมไวน์แบบไบลนด์เทสติ้งทั้งสิบข้อของเรา
1. ให้เพื่อนของคุณได้มีส่วนร่วมกับไวน์
เมื่อคุณตัดสินใจเลือกสถานที่และเวลาในการจัดกิจกรรมการชิมไวน์แบบไบลนด์เทสติ้งของคุณได้แล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณต้องตัดสินใจว่าใครจะเป็นผู้จัดหาไวน์
หากทุกคนได้มีส่วนร่วมในการจัดหาไวน์ที่หลากหลาย (รวมถึงคุณด้วย) มันจะทำให้คุณสามารถมีไวน์มากมายอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อนเลยทีเดียว
2. การเตรียมการเป็นกุญแจที่สำคัญ
มันเป็นความคิดที่ดี หากคุณตัดสินใจเลือกธีมของการชิมไวน์แบบไบลนด์เทสติ้งของคุณ ซึ่งทั้งนี้ธีมอาจขึ้นอยู่กับแหล่งผลิตไวน์, สีของไวน์, ปีที่ผลิต, หรือแม้แต่สายพันธุ์ขององุ่น และคุณต้องแน่ใจว่าคุณได้กำหนดช่วงราคาเพื่อเป็นการกำหนดจำนวนขวดที่ผู้เข้าร่วมแต่ละคนควรนำมาร่วมงาน หากคุณมีร้านไวน์ที่ไว้ใจได้ พร้อมพนักงานที่มีความชำนาญ คุณก็สามารถให้พวกเขาเลือกไวน์ให้คุณได้!
การชิมไวน์แบบไบลนด์เทสติ้งนั้นมีความสนุกสนาน และเป็นวิธีการที่เราจะได้สัมผัสกับการลิ้มรสไวน์อย่างเป็นกลาง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีแก้วไวน์ที่เหมาะสม แก้วเหล่านี้ควรได้รับการทำความสะอาดและเงางาม สิ่งสำคัญอื่น ๆ ที่คุณควรมี ได้แก่ ขวดใส่ไวน์, ที่เปิดขวดไวน์ (Osso), ถัง (spittoon), น้ำเปล่า, แครกเกอร์ รวมถึงปากกาและกระดาษสำหรับให้ผู้เข้าร่วมแต่ละคนจดบันทึก เตรียมพื้นที่สำหรับการเตรียมอุปกรณ์หลังฉากทั้งหมด เช่น การเปิดจุกและแคปซูล, และการเทไวน์ลงขวดใส่ไวน์
3. เก็บไวน์ไว้เป็นความลับ
คุณสามารถเลือกที่จะเทไวน์ลงในขวดใส่ไวน์หรือเหยือก และติดฉลากด้วยสัญลักษณ์หรือตัวเลข อีกหนึ่งวิธีในการป้องกันไม่ให้ผู้เข้าร่วมงานเห็นฉลากก็คือการนำขวดไวน์ใส่ในถุงก่อนการเริ่มชิม ถุงดังกล่าวสามารถทำจากวัสดุใดก็ได้ แต่ต้องไม่ให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถเดาได้ เพื่อป้องกันการโกง
วิธีที่เราชอบทำในการปกปิดขวดของเราก็คือการใช้ผ้าฟุโรชิกิ (Furoshiki) ของญี่ปุ่น ซึ่งถูกออกแบบมาอย่างประณีต ผ้าฟุโรชิกิเป็นเทคนิคการห่อแบบโบราณที่ใช้กันมาหลายศตวรรษ เพื่อใช้ในการบรรจุหีบห่อและขนส่งสินค้า
ผ้าฟุโรชิกินั้นไม่เพียงแต่เป็นการปกปิดขวดไวน์เท่านั้น แต่มันสามารถที่จะนำมาใช้ซ้ำได้ ทำให้มันเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถใช้สำหรับห่อของขวัญและทำเป็นถุงใส่ของขวัญโดยไม่จำเป็นต้องใช้กรรไกรและเทป การพับและผูกผ้าอย่างระมัดระวังนั้นล้วนเกิดจากประสบการณ์ ดูวิดีโอเพื่อเรียนรู้วิธีห่อขวดไวน์เพื่อใช้ในกิจกรรมการชิมไวน์แบบไบลนด์เทสติ้งของคุณด้วยวิธีการห่อด้วยผ้าฟุโรชิกิได้ที่นี่
4. จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมไม่เกิน 10 คนหรือน้อยกว่า
ขนาดของกลุ่มที่พอดีจะส่งเสริมให้การสนทนาเป็นไปได้อย่างทั่วถึง และเป็นการจัดการการชิมไวน์ที่ง่ายที่สุด เมื่อคุณมีผู้เข้าร่วมเกินจำนวน คุณจะต้องเพิ่มไวน์ให้เพียงพอสำหรับทุกคน เมื่อมีขนาดกลุ่มเกินสิบคนทุกอย่างจะยุ่งยากและเลอะเทอะ คุณควรจำกัดจำนวนของกลุ่มให้พอดีและเพลิดเพลินไปกับข้อดีของมัน
5. เตรียมไวน์ของคุณอย่างถูกวิธี
สำหรับไวน์ขาว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีถังแช่ไวน์และน้ำแข็งในการเก็บขวดไวน์ไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เตรียมน้ำแข็งให้พอที่จะใช้เติมเมื่อน้ำแข็งละลาย สำหรับไวน์แดงที่เข้มข้น ให้เทใส่ขวดใส่ไวน์ไว้อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงก่อนที่การชิมจะเริ่มต้นขึ้น
6. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีวิธีแยกแก้วไวน์
หากเพื่อนของคุณกลัวว่าจะสับสนและสลับแก้วไวน์ อุปกรณ์คล้องก้านแก้วไวน์ (Stem Charms) หรือที่เรารู้จักกันว่าเป็นเครื่องประดับแก้วไวน์นั้นเป็นวิธีที่ดีในการทำเครื่องหมายให้กับแก้วไวน์ต่าง ๆ มันมีทั้งแบบวงขนาดเล็กที่ใช้คล้องก้านแก้วเพื่อเป็นการระบุความเป็นเจ้าของแก้วไวน์ หรือคุณอาจทำป้ายชื่อขนาดเล็กซึ่งสามารถแกะออกได้ง่ายติดไว้ที่แก้วไวน์ วิธีเหล่านี้จะทำให้ทุกคนจำแก้วไวน์ของตัวเองได้
7. เสิร์ฟอาหารคู่กับไวน์อย่างเหมาะสม
ไวน์มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ดื่มพร้อมอาหาร การจับคู่ที่ถูกต้องจะดึงเอารสชาติต่าง ๆ ของไวน์ออกมาและช่วยเพิ่มการรับรสชาติให้กับเพดานปากของคุณได้
คุณสามารถเลือกได้ว่าจะเสิร์ฟอาหารเอง หรือ บอกให้แขกของคุณนำอาหารมาแชร์กัน เมนูคลาสสิก อาทิเช่น ผัก, เนื้อสัตว์แปรรูป, ปาเต, มะกอก, และช็อคโกแลต ทานอาหารเหล่านี้ในระหว่างการชิมไวน์ และสังเกตว่าทั้งรสชาติของอาหารและรสชาติของไวน์นั้นเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง นี่เป็นวิธีที่ดีในการเรียนรู้เกี่ยวกับการจับคู่ไวน์กับอาหาร รวมถึงรสชาติที่คุณชื่นชอบ ชีสเป็นตัวเลือกที่ทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้เสมอ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีชีสที่หลากหลาย ทั้งชีสจากแพะและแกะ เพื่อให้เหมาะกับไวน์ชนิดต่าง ๆ ที่คุณชิม
8. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปากของผู้เข้าร่วมงานนั้นพร้อมสำหรับการรับรส
เตือนเพื่อน ๆ ของคุณว่าอย่าดื่มกาแฟ, สูบบุหรี่, ทานอาหารรสจัดหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีรสชาติเข้มข้นก่อนการชิมไวน์แบบไบลนด์เทสติ้ง เพราะสิ่งเหล่านี้จะรบกวนการรับรสชาติของพวกเขา บอกให้พวกเขาไม่ใส่น้ำหอมที่มีกลิ่นฉุน เพราะมันอาจรบกวนความสามารถในการรับรส วางเหยือกน้ำและแก้วน้ำบนโต๊ะให้ผู้เข้าร่วมงานใช้ดื่มเพื่อล้างปากของพวกเขาในระหว่างการชิมไวน์แต่ละขวด แครกเกอร์รสธรรมดาหรือตะกร้าขนมปังรสธรรมดาก็ช่วยได้เช่นกัน
9. เลือกผู้เทไวน์และเตรียมตารางคำถาม
คุณควรเลือกอาสาสมัครเพื่อทำหน้าที่เทไวน์แต่ละขวด และส่งขวดไวน์หรือขวดใส่ไวน์ไปรอบ ๆ โต๊ะ เมื่อทุกคนได้รับแก้วไวน์ของตัวเองแล้ว คุณสามารถเริ่มคำถามในตารางของคุณได้ สามสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ใช้ประเมินไวน์ในการชิมไวน์แบบไบลนด์เทสติ้ง ได้แก่ ตา, จมูก\เพดาน, และ โครงสร้าง
ขอให้ทุกคนประเมินว่าไวน์นั้นมีลักษณะอย่างไร ไวน์มีความใส, ขุ่น, หรือมีสิ่งใดลอยอยู่ในไวน์หรือไม่?
ความหนาแน่นของเนื้อไวน์เป็นอย่างไร? ไลท์, มีเดียม, หรือข้น? ขาของไวน์เป็นอย่างไร? มีความเข้มข้นหรือไม่ (มีแอลกอฮอล์มาก) หรือไม่มีความเข้มข้น (มีแอลกอฮอล์น้อย)
หากคุณกำลังพูดถึงสปาร์คกลิ้งไวน์อยู่ ขนาดของฟอง มันมีความซ่าแค่ไหน?
ประเมินรสชาติและกลิ่นของไวน์แต่ละขวดไปเรื่อย ๆ มันเป็นไลท์ไวน์, มีเดียม, หรือเข้มข้น? คุณคิดว่าไวน์นั้นเป็นไวน์เก่า, ไวน์ใหม่, หรือกลาง ๆ? ความหวานเป็นอย่างไรบ้าง? มันจืด, หวานเล็กน้อย, หรือมีรสหวาน? แล้วความเป็นกรดล่ะ? มีแทนนินต่ำ,ปานกลาง, หรือสูง?
พิจารณาว่าไวน์นั้นเป็นไวน์แบบฟูลบอดี้, มีเดียมบอดี้, หรือไลท์บอดี้ มันทิ้งรสชาติหลังจิบไวน์ไว้นานมาก, แป๊บเดียว, หรือพอประมาณ? แล้วมีสิ่งอื่นที่ควรทราบอีกไหม? ความสมดุล ความกลมกล่อมของไวน์, ความสุก, และเนื้อสัมผัสเป็นอย่างไรบ้าง? เมื่อคุณประเมินคุณสมบัติต่าง ๆ และคุณภาพของไวน์แล้ว คุณก็สามารถพูดคุยเกี่ยวกับไวน์ที่คุณคิดว่ามีความเป็นไปได้
การชิมแบบไบลนด์เทสติ้งที่ดีมักจะมีข้อเท็จจริงและมีสิ่งที่คาดไม่ถึงอย่างน่าประหลาดใจอยู่เสมอ ซึ่งจะทำให้เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้
10. ดื่มด่ำในตอนท้าย
อย่ารีบเร่งในขั้นตอนนี้ เพลิดเพลินไปกับการอภิปรายและฟังผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์พูดเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้ไวน์นั้นเป็นไวน์ที่ยอดเยี่ยมและสิ่งใดที่ตรงกันข้าม เปิดกระเป๋าใส่ไวน์ออกและเฉลยคำตอบ หัวเราะไปกับคำตอบที่ทายกันไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลลัพธ์ที่ได้ แต่จริง ๆ แล้วก็คือไม่มีใครจำเป็นที่จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับไวน์ก่อนที่จะได้สนุกไปกับมัน และผลที่ได้ก็น่าประหลาดใจเช่นกัน!
