Brand Storytpl_newsletterWine

พบกับ Villa Sandi: เพิ่มประกายพราวแพรวให้กับวันหยุดพักผ่อนของคุณ!

ถึงเวลานั้นของปีอีกแล้วสินะ!! จะมีวันหยุดใหญ่สามวันในช่วงสามเดือนข้างหน้าที่จะถึงนี้ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเริ่มคิดเมนูอาหารที่คุณต้องการจะเสิร์ฟในงานเฉลิมฉลองปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากปีที่บ้าคลั่งนี้ นั่นคือปี 2020 เราต้องการใช้เวลาในการพักผ่อน ลิ้มรสช่วงเวลานั้นให้มากที่สุด เพื่อจดจำและไตร่ตรองถึงสิ่งดีๆในชีวิตของเรา

แม้ว่าแชมเปญจะเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในช่วงวันหยุดพักผ่อนของใครหลาย ๆ คน แต่หากคิดนอกกรอบในปีนี้แล้วล่ะก็ ลองไวน์ Prosecco ดูสิ! Prosecco ที่สดใหม่ มีชีวิตชีวา สปาร์คกลิ้งไวน์นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับอาหารในวันหยุดที่พรั่งพร้อม และดื่มง่าย ในราคาที่คุ้มค่ากว่าแชมเปญ และหากคุณกำลังมองหาไวน์ Prosecco ที่ดีอยู่ ให้ลองไวน์จาก Villa Sandi ผู้ผลิตไวน์ Prosecco ระดับพรีเมียม พร้อมไวน์อีกมากมายหลากหลายชนิดจากไร่องุ่นอื่นๆ ทั่วทั้งภูมิภาคของ Prosecco

Villa Sandi ตั้งอยู่ในเมืองเทรวิโซ โดยได้ชื่อนี้มาจากวิลลา Palladian ที่มีอายุกว่า 400 ปี ซึ่งใช้เป็นสำนักงานใหญ่ Villa Sandi เป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการแบบธุรกิจครอบครัว ก่อตั้งขึ้นในปี 1970 ซึ่งได้นำความภาคภูมิใจและความทุ่มเทมาสู่กระบวนการผลิตไวน์ของพวกเขา การผลิตไวน์ Proseccos จากแหล่งผลิตที่หลากหลาย ด้วยนวัตกรรม และวิธีการเพาะปลูกองุ่น และการผลิตไวน์อย่างยั่งยืน

Villa Sandiเป็นเจ้าของไร่องุ่นทั่วทั้งภูมิภาคเวเนโต ในภูมิภาคย่อย Proseccoที่สำคัญแต่ละแห่ง จากภูมิภาคที่กว้างขวางยิ่งขึ้นของ Prosecco DOCในพื้นที่ราบเรียบของแคว้นฟรียูลี-เวเน็ตเซียจูเลีย ไปจนถึงเนินเขาโค้งมนของ Asolo DOCG และไร่องุ่นที่สูงชันของ Valdobbiadene DOCG บริษัทVilla Sandiเป็นเจ้าของและควบคุมไร่องุ่นในแต่ละแหล่งผลิต ทำให้พวกเขาสามารถจับตาดูกระบวนการได้อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่องุ่นที่พวกเขาใช้ ตลอดทั้งกระบวนการตั้งแต่ไร่องุ่นจนถึงการบรรจุขวด ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงมั่นใจได้ว่าองุ่นทั้งหมดที่นำมาใช้นั้น เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพสูงของโรงกลั่นไวน์นั่นเอง

การผลิตอย่างยั่งยืน

ที่ Villa Sandi หลักการปฏิบัติอย่างยั่งยืนทั้งในไร่องุ่นและโรงกลั่นไวน์มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เป้าหมายของพวกเขาคือการทำให้โลกอยู่ในสภาพที่ดี และรักษาโลกใบนี้ไว้ให้ดีที่สุดสำหรับคนรุ่นต่อไป

ในผืนดินของ Villa Sandi โรงไฟฟ้าพลังน้ำให้พลังงาน 20% ของพลังงานที่ต้องใช้ในการดำเนินงาน ไร่องุ่นหลายแห่งได้รับใบรับรอง “Biodiversity Friend” ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถใช้แนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้อง และเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพในไร่องุ่น เพื่อให้องุ่นมีสุขภาพที่ดีและมีประสิทธิผลมากขึ้น แผงโซลาร์เซลล์ น้ำรีไซเคิล และการใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

Prosecco ที่ดีที่สุด

พบกับ Villa Sandi: เพิ่มประกายพราวแพรวให้กับวันหยุดพักผ่อนของคุณ!

ในหลาย ๆ ด้าน Villa Sandi ได้ทำให้ศิลปะของ Prosecco มีความสมบูรณ์แบบขึ้นมา แต่ก่อนที่เราจะรู้ว่าเป็นอย่างไร เรามาดูกันสั้น ๆ ว่า Prosecco คืออะไร หนึ่งในสปาร์คกลิ้งไวน์ที่ฉันโปรดปราน Prosecco ผลิตในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี จากองุ่นพันธุ์ Glera เป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสเบาบาง มีชีวิตชีวา ให้ความรู้สึกสดใส พร้อมฟองละเอียด ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติและกลิ่นผลไม้ที่สดใหม่ หมายถึงหากบริโภคในช่วงเริ่มแรก โดยทั่วไปจะทำให้เมาค่อนข้างเร็วหลังการผลิตใหม่ๆ และใช้เวลาบ่มไม่นานในโรงกลั่น นี่คือเหตุผลที่คุณสามารถสังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างรสชาติของผลไม้สดใน Prosecco และและรสชาติที่น่าลิ้มลองของแชมเปญได้

องุ่น Glera เองก็มีลักษณะที่ค่อนข้างเป็นกลาง และใช้ผลิตไวน์ที่มีลักษณะของผลไม้สดได้ เช่น แอปเปิ้ลเขียว ลูกแพร์ แตงโม และสายน้ำผึ้ง รสชาติผลไม้ของ Prosecco มักจะทำให้มันดูหวานกว่าที่เป็นอยู่เดิม เนื่องจาก Prosecco มักจะทำในรูปแบบแห้ง และสไตล์ Brut โดยมีน้ำตาลเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

วิธีการผลิต

Prosecco ผลิตโดยใช้วิธีการที่แตกต่างจากแชมเปญ โดยผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Charmat หรือวิธีการบ่มครั้งที่สองในถัง แทนที่จะผ่านการบ่มครั้งที่สองในขวดเช่นเดียวกับกรณีของแชมเปญ Prosecco จะผ่านการหมักครั้งที่สองในถัง เพื่อรักษารูปแบบรสชาติที่มีชีวิตชีวาซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี ถังบ่มจะถูกปิดผนึกระหว่างการบ่มครั้งที่สองนี้ เพื่อดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาในระหว่างกระบวนการนี้ และนี่คือสิ่งที่ทำให้ Prosecco มีประกายแพรวพราวอันเป็นเอกลักษณ์ คุณอาจสังเกตเห็นว่าฟองอากาศนั้นคงอยู่ไม่นานเท่ากับแชมเปญ นั่นเป็นเพราะ Prosecco มีการบรรจุขวดด้วยความดันที่ต่ำกว่า นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยให้เวลาดื่ม Prosecco แล้วรู้สึกถึงความนุ่มนวลขึ้นในปากของคุณ

Villa Sandi ใช้วิธีการบ่มไวน์ในถังที่แตกต่างกัน โดยใช้องุ่นที่แช่เย็นมากกว่าไวน์ที่ไม่มีฟอง เพื่อให้แน่ใจว่ามีกลิ่นหอมในระดับสูงสุด และคงความสดใหม่อย่างดีที่สุดในไวน์ของพวกเขา แทนที่จะทำการหมักแบบดั้งเดิม 2 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่หนึ่งหมักทันทีหลังจากการรีดน้ำองุ่น และหมักอีกครั้งเมื่อถึงเวลาที่จะเกิดฟอง Villa Sandi จะแช่เย็นน้ำองุ่นทันทีหลังจากรีดน้ำ และเก็บไว้ที่อุณหภูมิเยือกแข็งจนกว่าพวกเขาจะพร้อมที่จะทำการหมัก จากนั้นน้ำองุ่นแช่แข็งจะถูกทำให้กลับไปที่อุณหภูมิสูงขึ้น และผ่านการหมักหนึ่งครั้งในถังที่ปิดสนิท

วิธีการนี้หมายความว่า ไวน์จะคงความมีชีวิตชีวาและสดใหม่มากที่สุด ไม่มีการหมดอายุระหว่างการหมักครั้งแรกและครั้งที่สอง ซึ่งนั่นอาจทำให้ไวน์เก่าหรือมีกลิ่นเหม็นเล็กน้อย ไวน์คุณภาพสูงที่ผลิตด้วยวิธีนี้จะสัมผัสได้ชัดเจนตั้งแต่จิบแรก

ลำดับของสไตล์

ภายในภูมิภาคของ Prosecco ซึ่งเหมือนกับภูมิภาคไวน์ส่วนใหญ่ คือจะมีภูมิภาคย่อยหลายแห่งที่รู้จักกันดีว่าเป็นการผลิตไวน์ชนิดเดียวกัน ในสไตล์ที่แตกต่างกัน ในความเป็นจริงแล้ว Villa Sandi เป็นเจ้าของที่ดินและผลิตไวน์จากพื้นที่หลักของ DOC และ DOCG Prosecco ภายใต้แบรนด์ต่างๆ รวมถึง Treviso DOC, Asolo DOCG, Valdobbiadene DOCG และ cru ของ Cartizze

ด้วยความหลากหลายนี้ จะช่วยให้คุณมีทางเลือกมากมายเมื่อคุณต้องการเลือกซื้อสปาร์คกลิ้งไวน์ในครั้งต่อไป โดยมีความหมายมากกว่าเพื่อการบริโภคตามปกติ และมีไวน์คุณภาพระดับพรีเมียมเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน ในเทศกาลวันหยุดพักผ่อนของคุณ มาดูรูปแบบไวน์ที่พวกเขาได้ผลิตออกมาสักสองแบบที่แตกต่างกัน โดยเริ่มจาก Il Fresco Prosecco DOC Rosé 2019

Il Fresco Prosecco DOC Rosé 2019

Villa Sandi “Il Fresco” Prosecco DOC Rosé Millesimato

แคว้นเวเนโต  · อิตาลี

เป็นตัวเลือกที่ดีในการช่วยเพิ่มรสชาติอาหาร เหมาะกับอาหารที่ใช้มือทาน, linguine’s pasta, ชีสสด และขนมชิ้นเล็ก

Light
Body
Full
Dry
Sweetness
Sweet
Smooth
Tannins
Tannic
Soft
Acidity
Acidic
Gentle
Effervescence
Fizzy
เรียนรู้เพิ่มเติม

ไวน์นี้ผลิตในภูมิภาค Prosecco DOC ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ทุ่มเทให้กับการผลิตสปาร์คกลิ้งไวน์มาอย่างยาวนาน ในฐานะที่เป็น Prosecco สไตล์ Brut ทำให้ไวน์นี้มีสัมผัสของความหวาน แต่ก็น้อยมาก ความหวานเปรยๆนี้จะล้อมรอบรสชาติและเพิ่มความกลมกล่อมละเมียดละไมให้กับไวน์ในตอนจบ ทำให้เป็นไวน์ apéritif หรืออาหารเรียกน้ำย่อยที่ถูกใจใครต่อใคร ทั้งยังมีสีชมพูสวยงาม พร้อมไฮไลท์สีทองแดง และกลิ่นหอมรัญจวนของกุหลาบ ผลไม้สีแดง ทับทิม ฟองซ่าที่ละเอียดและสม่ำเสมอ ทำให้ดูมีชีวิตชีวาและน่าหลงใหลอย่างยิ่ง

Rosé Prosecco เป็นไวน์ที่ไม่ได้พบเห็นบ่อยนัก เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้ผลิตก่อนปีนี้ และด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งของผู้ผลิต ทางรัฐบาลอิตาลีในปี 2020 ได้อนุมัติให้ผลิต Rosé Prosecco ได้ และตอนนี้ถึงเวลาที่จะลองดื่มแล้ว! คุณอาจสงสัยว่าไวน์มีสีที่น่ารักอย่างนี้ได้อย่างไร ใน Rosé Prosecco มีความคล้ายกับแชมเปญ ไวน์ Pinot Noir ซึ่งเป็นองุ่นแดง จะถูกเพิ่มเข้าไปในองุ่น Glera ซึ่งองุ่นแดงจะถูกบดแยกจากกัน โดยใช้เวลาพอสมควรในการสกัดแยกสีออกเป็นสีอ่อน ๆ จากนั้นจึงเติมน้ำองุ่นขาวลงไปก่อนทำการหมัก การผสมน้ำผลไม้สีแดงและสีขาวนี้ ทำให้ไวน์รสชาติชุ่มฉ่ำนี้มีสีชมพูสวยงามนั่นเอง

ความเป็นกรดที่แสนจะสดชื่นของไวน์นี้ จะช่วยกระตุ้นความอยากอาหารและกระตุ้นต่อมลิ้มรสของคุณได้ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับอาหารในวันหยุดพักผ่อนที่มีรสเค็มและมีไขมันสูง สามารถทานคู่กันได้อย่างยอดเยี่ยมสำหรับชีสแบบดั้งเดิมของอิตาลีและชากูเตอรี่ โดยเฉพาะชีสเนื้อกึ่งแข็ง ชีสสไตล์ผลไม้ หรือทริปเปิ้ลครีมชีสเนื้อนุ่ม ซาลามีหรือแฮมที่ผ่านการบ่มทุกประเภทก็เข้ากันได้ดีกับไวน์ Prosecco นี้ เช่นเดียวกับผลไม้ ชีสทาร์ต หรือสลัดจานเบา ๆ สลัดที่มีส่วนผสมของลูกแพร์ สตรอเบอร์รี่ หรือแอปเปิ้ล จะช่วยให้รสชาติของผลไม้สุกภายในไวน์ออกมา และความเป็นกรดในไวน์นั้นแข็งแกร่งพอที่จะเป็นน้ำส้มสายชูได้เลยทีเดียว 

หากคุณสนใจที่จะสำรวจโลกของ Prosecco เพิ่มเติม โปรดรับชมได้ที่ Cartizze DOCG La Rivetta ของ Villa Sandi หรือ Asolo Prosecco Superiore DOCG โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Cartizze หรือที่เรียกว่า “Grand Cru of Prosecco” ซึ่งจะแสดงให้คุณเห็นว่าภูมิภาคนี้สามารถผลิตอะไรได้บ้าง และคุณอาจจะต้องประหลาดใจ

โฉมหน้าอันทันสมัยของไวน์ Prosecco

พบกับ Villa Sandi: เพิ่มประกายพราวแพรวให้กับวันหยุดพักผ่อนของคุณ!

ในฐานะผู้ผลิตระดับพรีเมียมVilla Sandi ยังให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์และความรู้สึกของไวน์ของพวกเขา รูปทรงขวดที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาออกแบบโดยครอบครัว และเป็นกรรมสิทธิ์ของทรัพย์สิน ผู้ผลิตรายอื่นจะไม่สามารถใช้การออกแบบขวดแบบเดียวกันนี้ได้ ซึ่งมันได้เติมเต็มช่องว่างระหว่างความเก่าและใหม่ ธรรมเนียมประเพณีและความทันสมัย เนื่องจากเป็นการแสดงความเคารพต่อการออกแบบขวดไวน์ Prosecco แบบดั้งเดิม แต่มีภาพที่ชีวิตชีวาและมีความคมชัดกว่านั่นเอง 

วัสดุบรรจุภัณฑ์และการขนส่งที่ Villa Sandi ใช้ ยังได้รับการออกแบบมาเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และมีขนาดเล็กลง เพื่อลดปริมาณขยะที่เกิดจากการขนส่งไวน์ไปทั่วโลก

Villa Sandi ยินดีต้อนรับผู้มาเยือนจากทั่วโลกด้วยเช่นกัน เพื่อให้พบกับแตร์รัวร์และวิธีการผลิตที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา การสำรวจห้องใต้ดินเกือบ 1.5 กม. และค้นพบความลับของแบรนด์ที่ไม่เหมือนใครนี้ และอย่าลืมชิมไวน์ด้วยล่ะ!

บทสรุป

เรามีให้บริการทั่วโลก ทาง Villa Sandi นำเสนอตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับการเฉลิมฉลองวันหยุดครั้งต่อไปของคุณ หรือทุกเวลาที่คุณต้องการอะไรที่สนุกสนานและมีฟองฟ่เพื่อดื่มด่ำไปกับมัน หากคุณไม่เคยลองไวน์ Prosecco มาก่อน หรือหากคุณเคยลองแล้วแต่กำลังมองหาสิ่งที่น่าสนใจและอยู่ในฤดูกาล ลองไวน์ Prosecco Superiores หรือแม้แต่ไวน์ Cartizze เพื่อเพิ่มพูนความรู้ในด้านเหตุผลของคุณ และแน่นอนอย่าลืมโรเซ่ด้วย ไวน์แสนอร่อยเหล่านี้เหมาะสำหรับช่วงเวลานี้ของปี และจะช่วยเพิ่มประกายและความสนุกสนานให้กับการเฉลิมฉลองของคุณได้อย่างแน่นอน 

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอย่างยั่งยืน ทาง Villa Sandi มุ่งมั่นที่จะผลิตไวน์ที่มีคุณภาพสูงยิ่งขึ้นไปอีก และเป็นประโยชน์ต่อระบบนิเวศน์มากขึ้น และเพื่อให้สามารถถ่ายทอดความสุข และความงามที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของภูมิภาค Prosecco ให้แก่คุณ ชูแก้วของคุณ ดื่มให้กับวันหยุดพักผ่อนด้วย Villa Sandi Prosecco กันเถอะ!

Campaign Financed According to EU Reg. N. 1308/2013

Cedar Stoltenow

Cedar เป็นนักเขียน/ที่ปรึกษาเกี่ยวกับไวน์ในเมืองชิคาโก การเป็นผู้ที่รักในทุกสิ่งที่สามารถกินได้นั้นทำให้เธอกลับมาเกี่ยวข้องกับไวน์อีกครั้งหลังจากที่ได้หยุดพักและหันไปทำงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอยู่ช่วงระยะหนึ่ง เป้าหมายของเธอคือการทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงไวน์ได้มากขึ้นและพัฒนาความสนใจในสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ปัจจุบัน Cedar ทำงานในธุรกิจค้าปลีกไวน์พร้อม ๆ ไปกับการเขียนบทความที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับไวน์และเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาแบรนด์สำหรับผู้ผลิตรายย่อย

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button