Learn About WineWine

ประวัติของไวน์

ย้อนอดีตเครื่องดื่มที่แสนโปรดปรานของคุณกลับไปเมื่อหลายพันปีก่อน

ไวน์ได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเมื่อย้อนไปประมาณ 7000 ปีก่อนคริสตกาล และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามันก็ได้ช่วยสร้างชุมชนและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในแถบภูมิภาคที่มีการเพาะปลูกองุ่น มันมีส่วนสำคัญทั้งในด้านการค้า สงคราม และวัฒนธรรมต่าง ๆ

7,000 ปีก่อนคริสตกาล

ไวน์ที่รู้จักเป็นครั้งแรกมาจากลุ่มแม่น้ำฮวงโหในประเทศจีน ชนเผ่าที่นี่มีการหมักน้ำผึ้ง, ข้าว, และผลไม้หลายชนิด และเก็บไว้ในภาชนะดินเผาขนาดใหญ่ (ส่วนมากใช้ไหดินเหนียวขนาดใหญ่) ซึ่งต่อมาถูกฝังอยู่ในดิน ไม่กี่พันปีต่อมาวิธีนี้ก็แพร่กระจายออกไปและในบางประเทศก็ยังคงมีการใช้วิธีนี้อยู่จนถึงปัจจุบัน

5,000 ปีก่อนคริสตกาล

นักโบราณคดีได้ค้นพบว่าไวน์ถูกผลิตขึ้นเมื่อ 7,000 ปีก่อนในอิหร่านยุคใหม่ ซึ่งช่วงเวลานั้นเป็นการตั้งถิ่นฐานถาวรครั้งแรกในแถบตะวันออกกลาง

ประวัติของไวน์

4,000 ปีก่อนคริสตกาล

ผู้ตั้งถิ่นฐานยุคแรกบนเกาะซิซิลีในปัจจุบันได้เริ่มทำการเพาะปลูกองุ่นขึ้น และในที่สุดผู้ตั้งถิ่นฐานเหล่านั้นก็เริ่มทำการผลิตไวน์ Marsala ซึ่งเป็นไวน์ผสมเหล้าที่มีชื่อเสียงที่ผลิตจากองุ่นพันธุ์พื้นเมืองและมีวิธีการผลิตไวน์ที่เป็นเอกลักษณ์

1,600-1,000 ปีก่อนคริสตกาล

มันเป็นช่วงเวลาที่นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าไวน์เริ่มที่จะมีบทบาทในวัฒนธรรมอิสราเอลและกรีกโบราณ มันถูกใช้เพื่อการค้าและเมื่อมีการเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ นั้นไวน์ก็จะถูกเก็บไว้ในถุงที่ทำมาจากหนังแพะ

ในช่วงนี้เองที่มีการเขียนตำราและภาพวาดบนแผ่นจารึกเกี่ยวกับไวน์และการเพาะปลูกผลไม้และองุ่นต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำไวน์

900 ปีก่อนคริสตกาล

นี่คือช่วงที่เรากำลังเข้าสู่ยุคที่มีการผลิตไวน์ที่ทันสมัยมากขึ้น อารยธรรมต่าง ๆ เช่น อารยธรรมในยุโรปตอนเหนือที่มีการใช้ไม้โอ๊คนั้นก็ได้เริ่มใช้ถังไม้โอ๊คเพื่อเก็บรักษาไวน์ของพวกเขา เราคาดว่าด้วยวิธีการนี้เองที่พวกเขาค้นพบว่าไม้โอ๊คสามารถแต่งเติมรสชาติและลดการออกซิเดชั่นให้แก่ไวน์ได้; วิธีปฏิบัติที่เรายังคงใช้อยู่ในปัจจุบัน

ค.ศ.1000

ในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมาจนถึงช่วงเวลานี้ ทักษะต่าง ๆ ที่ใช้ในการผลิตไวน์และวิธีการขนส่งไวน์นั้นเริ่มมีความเจริญรุ่งเรือง มีการแบ่งปันทักษะและวิธีการต่าง ๆ ไปทั่วโลก ประมาณปี ค.ศ.1000 ปราสาท Chateau de Goulaine ได้ถูกสร้างขึ้น ซึ่งถือเป็นโรงบ่มไวน์ที่เก่าแก่ที่สุด

ประวัติของไวน์

ค.ศ.1400-1500

ในวัฒนธรรมยุโรปได้มีการค้นพบความสุขของการดื่มสปาร์คกลิ้งไวน์หลังจากที่ไวน์ต่าง ๆ ถูกผลิตขึ้นเพื่อการค้าและถูกนำมาหมักเป็นครั้งที่สองเพื่อผลิตสปาร์คกลิ้งไวน์ นอกจากนั้นในช่วงเวลานี้เถาองุ่นต่าง ๆ ที่ได้ปลูกได้สำเร็จในยุโรปก็ได้ถูกส่งไปยังทวีปอเมริกาใต้เพื่อปลูกทำการเพาะปลูก

ค.ศ.1740

ได้มีการออกแบบขวดแก้วที่ทันสมัยขึ้น ในขณะที่เริ่มการใช้ขวดแก้วมาแล้วกว่าหนึ่งร้อยปีแต่จุกไม้ก๊อกนั้นมักจะแห้งไปและมันก็ทำให้ยากต่อการขนส่ง

ประวัติของไวน์

ค.ศ.1964

ไวน์กล่องเริ่มเป็นที่รู้จัก

ค.ศ.2010

องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon เป็นองุ่นแดงที่มีการเพาะปลูกมากที่สุดในโลก และองุ่นสายพันธุ์ Airen เป็นองุ่นขาวที่มีการเพาะปลูกมากที่สุดในโลก

วิวัฒนาการของกระบวนการผลิตไวน์

ประวัติของไวน์

ในขณะที่ไวน์นั้นได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อย่างยาวนานหลายพันปีแต่มันก็ไม่ได้เหมือนกับในปัจจุบันนี้ วิวัฒนาการของการผลิตไวน์และการเพาะปลูกองุ่นตลอดหลายศตวรรษได้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการเพาะปลูกองุ่น, การเก็บเกี่ยวองุ่น, การผลิตไวน์, และการบรรจุขวดเพื่อการขนส่งอย่างประสบความสำเร็จ การเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่ทั้งหลายเหล่านี้ได้เกิดขึ้นในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรม

การเพาะปลูกองุ่น

เมื่อหลายพันปีก่อน เกษตรกรผู้เพาะปลูกองุ่นสามารถปลูกองุ่นได้เฉพาะแค่องุ่นพันธุ์พื้นเมืองเท่านั้น แต่ในปัจจุบันนี้เถาองุ่นได้ถูกขนส่งไปทั่วโลกและเรายังสามารถทำการเพาะปลูกองุ่นสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรงขึ้นและทำให้เกิดโรคและเชื้อราได้น้อยลง

ในขณะที่การต่อกิ่งและการตัดแต่งพวงองุ่นนั้นเกิดขึ้นเมื่อประมาณสองสามพันปีที่ผ่านมา แต่ขั้นตอนการทำอย่างมีระเบียบวิธีนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ เมื่อเถาองุ่นอยู่ในระยะพักตัวคนงานในไร่ก็จะสามารถตัดแต่งเถาองุ่นเพื่อควบคุมการเจริญเติบโตและจำนวนช่อขององุ่น และเพื่อดูแลรักษาเถาองุ่นนั้นให้แข็งแรง

แหล่งเพาะปลูกบางแห่งนั้นมีพื้นที่ใกล้กับแหล่งน้ำจึงสามารถเข้าถึงระบบชลประทานในยุคกลางได้ แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขามักจะไม่ใช้น้ำรดเถาองุ่น มันเป็นความรู้พื้นฐานว่าเถาองุ่นส่วนใหญ่จะเจริญติบโตได้ดีที่สุดเมื่อมันมีการขาดน้ำบ้างเล็กน้อย ในความเป็นจริงแล้ว ถ้ามีน้ำมากเกินไปจะสามารถสร้างความเสียหายได้อย่างมากเลยทีเดียว และจนถึงทุกวันนี้แหล่งเพาะปลูกส่วนใหญ่ก็ไม่ทำการรดน้ำเถาองุ่นของพวกเขา

แน่นอนว่าในอดีตนั้นไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลงใด ๆ จนกระทั่งมีการนำยาฆ่ามาใช้แมลงเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อหลายพันปีก่อนจนถึงประมาณ 100 ปีที่ผ่านมา พื้นที่ที่เถาองุ่นสามารถเจริญเติบโตได้อย่างประสบความสำเร็จในทุก ๆ ปีนั้นมีอยู่จำกัด แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการใช้ยาฆ่าแมลงต่าง ๆ ทำให้เราสามารถขยายจำนวนพื้นที่ที่เถาองุ่นสามารถเจริญเติบโตได้

แหล่งเพาะปลูกที่มีความชื้นสูงสามารถทำการเพาะปลูกองุ่นได้เพราะว่าเรามีสเปรย์ที่ช่วยลดโอกาสของการเกิดปัญหาเชื้อราต่าง ๆ และเรายังสามารถใช้ยาฆ่าแมลงเพื่อลดโอกาสในการเกิดปัญหาจากเพลี้ยและสัตว์อื่น ๆ อีกด้วย เถาองุ่นสามารถเจริญเติบโตได้และมีอายุอยู่ได้นานมากขึ้นและคงไว้ซึ่งคุณภาพตลอดระยะเวลาของมัน

คาดว่าเมื่อหลายร้อยปีการปลูกต้นใหม่ขึ้นซ้ำ ๆ นั้นได้ปฏิบัติกันโดยทั่วไป และเถาองุ่นก็มักจะไม่โตเพราะว่าพวกมันมักจะตายลงเนื่องจากเพลี้ยและโรคต่าง ๆ ทำให้เกษตรกรต้องทำการปลูกเถาองุ่นขึ้นมาใหม่ตลอดเวลา

การเก็บเกี่ยว

หนึ่งในขั้นตอนการผลิตไวน์ที่สามารถพบได้ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมาก็คือวิธีการเก็บเกี่ยวองุ่นด้วยมือ แหล่งผลิตไวน์โลกเก่าส่วนใหญ่จะทำการเก็บเกี่ยวองุ่นด้วยมืออย่างเคร่งครัดเพื่อให้แน่ใจว่าได้คัดเลือกองุ่นที่มีคุณภาพดีที่สุด ส่วนพื้นที่อื่น ๆ ที่มีความสูงชันมากหรือเถาองุ่นนั้นติดกันมากเกินไปก็จะใช้วิธีการเก็บเกี่ยวด้วยเครื่องจักรกล

การคัดแยก, การแยกกิ่งก้าน, การคั้นน้ำ

เช่นเดียวกับการเก็บองุ่นด้วยมือในขั้นตอนการเก็บเกี่ยวเพราะองุ่นส่วนมากก็ยังถูกคัดแยกด้วยมืออีกครั้ง ในปัจจุบันโรงงานผลิตไวน์ขนาดใหญ่บางแห่งมีการนำเครื่องจักรที่ใช้ในการคัดแยกผลเชอรรี่เข้ามาเพื่อใช้ในการคัดแยกองุ่นของพวกเขา

เครื่องนี้จะทำการคัดแยกชิ้นส่วนต่าง ๆ เช่น ชิ้นส่วนที่ไม่ดีหรือแมลงออกไปและเหลือไวเพียงแค่พวงองุ่นที่ใช้ได้เท่านั้น สำหรับขั้นตอนการแยกกิ่งก้านออกจากองุ่นทำไวน์นั้น ขั้นตอนนี้ได้ถูกเปลี่ยนจากการแยกกิ่งก้านออกด้วยมือทั้งหมดไปเป็นการใช้เครื่องแยกกิ่งก้านแทน

เครื่องจักรที่มีหมุดยางติดอยู่บนภาชนะทรงกระบอกทำการหมุนและแยกองุ่นออกจากลำต้น นี่เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลานานหากทำด้วยมือ

เราทุกคนต่างเคยเห็นรูปภาพของฤดูการเก็บเกี่ยวที่ผู้คนร่วมกันทำการคั้นองุ่นด้วยเท้า นี่คือวิธีที่เคยทำกันในอดีตเพื่อที่จะคั้นน้ำองุ่นออกมา เมื่อไม่กี่ร้อยปีก่อนแหล่งผลิตไวน์บางแห่งเริ่มทำเครื่องคั้นรูปทรงกระบอกที่สามารถโยกคันโยกเพื่อทำการบีบองุ่นและได้น้ำองุ่นออกมาจากร่องด้านในถัง

สารเติมแต่ง

สารเติมแต่งต่าง ๆ เช่น น้ำตาล ผงยีสต์ และสารช่วยตกตะกอนนั้นพบได้มากในปัจจุบันเมื่อเทียบกับการผลิตไวน์ในอดีต ไม่ใช่เรื่องแปลกที่การใช้ไม้โอ๊คนั้นมีมาอย่างยาวนานหลายร้อยปีและมันมีไว้สำหรับเพื่อใช้เก็บไวน์เท่านั้น จนมีการค้นพบว่าการบ่มไวน์ในถังโอ๊คนั้นมีประโยชน์ต่อรสชาติของไวน์อย่างมาก

องุ่นและผลไม้ทุกชนิดนั้นจะมียีสต์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่อเริ่มกระบวนการหมักน้ำผลไม้ในขณะที่ผิวของมันแตกออก ในปัจจุบันนี้เราสามารถทำการเพาะเลี้ยงยีสต์ชนิดพิเศษต่าง ๆ ได้ในห้องแล็บ ซึ่งเป็นการช่วยให้ผู้ผลิตไวน์นั้นสามารถควบคุมกระบวนการผลิตไวน์ได้มากขึ้น และผลิตผลพลอยได้จากยีสต์ตามที่พวกเขาต้องการได้ แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีผู้ผลิตไวน์บางรายเลือกที่จะใช้ยีสต์ตามธรรมชาติในการผลิตไวน์เช่นกัน

สารเติมแต่งความหวานนั้นเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ผลิตไวน์สามารถผลิตไวน์ที่มีรสชาติคงที่หากในฤดูกาลนั้นได้พวกเขาได้องุ่นที่มีน้ำตาลต่ำ น้ำตาลไม่ได้เป็นสินค้าที่แพร่หลายและมีราคาถูกไม่เหมือนเช่นในปัจจุบันนี้ จริง ๆ แล้วพื้นที่ส่วนใหญ่ของแหล่งผลิตไวน์โลกเก่านั้นได้มีการห้ามใช้น้ำตาลในไวน์ แต่อย่างไรก็ตาม มันได้ช่วยให้ไร่องุ่นในแหล่งผลิตไวน์โลกใหม่สามารถที่จะผลิตไวน์ที่มีรสชาติคงที่ โดยเฉพาะพื้นที่แหล่งผลิตที่มีสภาพอากาศที่ทำให้ผลผลิตที่ได้มีปริมาณน้ำตาลต่ำ

สารเติมแต่งทั้งหมดนั้นค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องใหม่เพราะตอนนี้สารเคมีต่าง ๆ ถูกนำมาใช้เพื่อการควบคุมและถูกผลิตขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการค้า

การกรอง

ขั้นตอนการกรองไวน์นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่อย่างที่หลาย ๆ คนคิด ในขณะที่ปัจจุบันนี้เรามีเครื่องจักรกลที่ซับซ้อนและสามารถกรองไวน์ได้อย่างรวดเร็วในทุกระดับที่คุณต้องการ แต่ก็มีหลายวิธีที่ผู้ผลิตไวน์ใช้ในการกรองไวน์เมื่อหลายร้อยปีก่อน

ผ้าขาวบางช่วยให้ผู้ผลิตไวน์สามารถกรองเอาอนุภาคและความขุ่นมัวที่เห็นได้ชัดในไวน์ออกจากไวน์ นี่เป็นวิธีปฏิบัติที่พบบ่อยที่สุดในการกรองไวน์สำหรับผู้ที่ผลิตไวน์ภายในครัวเรือนในปัจจุบัน

วิวัฒนาการของพฤติกรรมการบริโภคตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ประวัติของไวน์

การบริโภคไวน์จากหลายพันปีก่อนจนถึงปัจจุบันนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ ตั้งแต่ปริมาณในการดื่มไปจนถึงพฤติกรรมการบริโภคและการที่ศุลกากรเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการดื่มไวน์; ไม่น่าแปลกใจที่ไวน์นั้นได้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรมของสังคมมานานหลายพันปี

ในขณะที่นักประวัติศาสตร์นั้นยังไม่แน่ใจว่าตลอดระยะเวลาในประวัติศาสตร์ของไวน์ทั้งหมดที่ผ่านมานั้นไวน์ได้มีบทบาทในสังคมอย่างไรบ้าง แต่มีการกล่าวว่าไวน์มีบทบาทที่คล้ายคลึงเฉกเช่นเดียวกับในทุกวันนี้มาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว; เป็นเครื่องดื่มทางวัฒนธรรมและทางสังคม

การแสดงความหมาย

เมื่อเริ่มมีการค้าไวน์เกิดขึ้นเมื่อสองสามพันปีก่อนในดินแดนเมโสโปเตเมีย ซึ่งจะมีเฉพาะคนที่มีฐานะร่ำรวยและขุนนางเท่านั้นที่มีเงินพอที่จะซื้อไวน์ได้ การบริโภคไวน์เป็นการแสดงสัญลักษณ์ทางสถานะของผู้ที่สามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อไวน์ได้ แม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้จะสามารถเข้าถึงไวน์ได้ แต่มันก็ยังสามารถนำมาเป็นการแสดงสัญลักษณ์ในการบริโภคและการสะสมไวน์ที่ดีที่สุดและหายากที่สุดในโลก

ในบางพื้นที่ของโลกทุกวันนี้ เรายังคงเห็นการใช้ไวน์เป็นรูปแบบหนึ่งของการแสดงสัญลักษณ์ โดยเฉพาะประเทศจีนและประเทศอื่น ๆ ในทวีปเอเชีย การบริโภคไวน์ในแถบนี้ค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องใหม่ มันได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง ผู้ที่สามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อไวน์ได้นั้นเป็นนักสะสมไวน์ชั้นเลิศจากฝรั่งเศสและจากแหล่งผลิตไวน์โลกเก่าอื่น ๆ คุณจะเห็นเมนูไวน์มากมายได้ที่ร้านอาหารและโรงแรมสุดหรู

เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก เนื่องจากการบริโภคไวน์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและประเทศจีนนั้นเปิดตลาดนำเข้าไวน์เพื่อให้มีเป็นตัวเลือกของไวน์ที่มีราคาที่สามารถจับต้องได้ และในไม่ช้าประเทศจีนก็จะกลายเป็นผู้บริโภคไวน์รายใหญ่อันดับสองรองจากสหรัฐอเมริกา

ความอุดมสมบูรณ์

ในขณะที่เทคโนโลยีที่ทันสมัยและกรรมวิธีการผลิตไวน์นั้นทำให้สามารถผลิตไวน์ได้ค่อนข้างคงที่ แต่เมื่อหลายพันปีก่อนการเก็บเกี่ยวพืชผลต่าง ๆ นั้นมีความผันผวนมากกว่าในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ความสามารถในการทำไวน์นั้นขึ้นอยู่กับการเก็บเกี่ยวที่ดี ฤดูกาลแห่งการเก็บเกี่ยวที่ดีจะถูกเฉลิมฉลองด้วยการผลิตและการบริโภคไวน์และถูกกล่าวขานว่าเป็นลางดีแห่งความอุดมสมบูรณ์ของปีที่กำลังจะมาถึง

ศาสนา

ประวัติของไวน์

ไวน์ได้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในหลายศาสนาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์ รวมถึงตำนานเทพเจ้ากรีก ศาสนาคริสต์ และศาสนาพุทธ

ชาวกรีกเคยใช้ไวน์ในการบูชาเทพพระเจ้าของพวกเขาและไวน์ถูกนำมาใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ มากมาย ในศาสนาคริสต์นั้นไวน์แดงถือเป็นสัญลักษณ์แทนโลหิตของพระเยซูและไวน์ยังคงถูกใช้ในการฉลองและพิธีกรรมทางศาสนาอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย ส่วนชาวพุทธกล่าวว่าการวางแก้วไวน์บนแท่นบูชานั้นเป็นสัญลักษณ์เพื่อแสดงความเคารพและการบูชา

ปรากฏการณ์ทางศาสนาและวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับไวน์นั้นเกิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ พิธีการ, พิธีกรรม, และการปฏิบัติทางสังคมบางอย่างนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับไวน์อย่างมาก และไวน์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนต่าง ๆ มากมายอย่างนับไม่ถ้วนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์

และตลอดระยะเวลานี้ การเพาะปลูกองุ่นและการผลิตไวน์ได้พัฒนามาเป็นอุตสาหกรรมได้อย่างน่าทึ่งและยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จากการเหยียบด้วยเท้าเปล่าและการเก็บไวน์ในถุงที่ทำมาจากหนังแพะ จนในปัจจุบันองุ่นได้มีการปลูกเพื่อการค้า ได้มีการเก็บเกี่ยวและถูกขนส่งไปทั่วทุกมุมโลก

Christina

ในปี 2016, Christina สำเร็จการศึกษาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษาไวน์ทั่วโลก (Global Wine Studies) จากมหาวิทยาลัยเซ็นทรัลวอชิงตัน ในระหว่างที่เธอกำลังศึกษาอยู่นั้นเธอได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศฝรั่งเศสและทำงานที่อลาสกาในภาคฤดูร้อน หลังจากที่เธอจบการศึกษาและได้ทำงานที่โรงบ่มไวน์ที่เธอชื่นชอบในรัฐวอชิงตันอยู่สองสามปี เธอก็ได้ย้ายไปที่อลาสก้าเพื่อไล่ตามเป้าหมายอื่น ๆ ในชีวิต เธอสนุกไปกับการตกปลาและวิวทิวทัศน์แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ยังคงทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมไวน์ในฐานะนักเขียน/ที่ปรึกษา

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button
newsletter-signup-img.jpeg
รับข่าวสารล่าสุด

สมัครรับจดหมายข่าวของเรา

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารและเคล็ดลับเกี่ยวกับไวน์ล่าสุด รวมถึงข้อเสนอพิเศษและคำเชิญเข้าร่วม MasterClasses