กลยุทธ์การเก็บรักษาไวน์และการเก็บไวน์ในห้องเก็บไวน์

การออกแบบห้องเก็บไวน์

แน่นอนว่าสิ่งแรกที่คุณต้องพิจารณาสำหรับกลยุทธ์การเก็บไวน์ในห้องเก็บไวน์ ก็คือ ห้องเก็บไวน์ของคุณ มันไม่มีความจำเป็นในการสร้างคอลเล็กชั่นไวน์ที่สวยงาม ถ้าหากว่าคุณไม่มีพื้นที่ที่เหมาะสมในการจัดเก็บมัน ไวน์ชั้นดีต้องการสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมอย่างดีเยี่ยม เพื่อให้แน่ใจว่ามันสามารถทำการบ่มได้อย่างเหมาะสม และเพื่อป้องกันว่าคุณจะไม่เสียเงินของคุณไปฟรี ๆ ดังนั้น คุณต้องพิจารณาประเด็นต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการซื้อไวน์

การควบคุมสภาพอากาศ

เพื่อศักยภาพสูงสุดในการบ่มนั้นไวน์จะต้องถูกเก็บรักษาไว้ในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมสภาพอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเขตร้อน ความร้อนและความชื้นที่มากเกินไปสามารถเร่งกระบวนการบ่มไวน์ของคุณได้, มันทำให้ไวน์ในขวดเสีย, ทำลายจุกไม้ก๊อกและฉลากไวน์, และยังทำลายสิ่งที่ต่าง ๆ ที่คุณเก็บไว้ในห้องเก็บไวน์ของคุณอีกด้วย ในอีกทางหนึ่ง การทิ้งไวน์ของคุณไว้ในโรงจอดรถในสภาพอากาศที่เย็นจัด โดยไม่มีเครื่องทำความร้อน อาจทำให้ไวน์เกิดการตกตะกอนกรดทาร์ทาริก ซึ่งทำให้เกิดผลึกที่ไม่น่าดู

การสั่นสะเทือน

จริง ๆ แล้วในระหว่างการบ่มนั้นเราควรย้ายไวน์ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และมันควรได้รับการปกป้องจากการสั่นสะเทือนที่มากเกินไป การเคลื่อนไหวนั้นจะทำให้ตะกอนในขวดฟุ้งขึ้นมา และการสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องจะส่งผลเสียต่อกระบวนการบ่ม หากคุณลงทุนซื้อตู้แช่ไวน์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามอเตอร์ถูกหุ้มไว้อย่างดีหรือไม่ได้อยู่ในส่วนหลักของตู้แช่ไวน์ เพื่อไม่ทำให้ไวน์ในขวดเกิดการเคลื่อนไหว

แสง

แสงเป็นอันตรายต่อไวน์ทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งไวน์ที่มีสีอ่อนและไวน์ขาว รังสียูวีจากแสงแดดหรือแสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์สามารถทำลายสารประกอบทางเคมีและโมเลกุลภายในไวน์ได้ มันทำให้ไวน์มีอายุก่อนกำหนดและทำให้ขวดไวน์เกิดความร้อน เก็บไวน์ของคุณไว้ในที่มืดและอย่าใช้แสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ในห้องเก็บไวน์ของคุณ

การจัดการสินค้าคงคลัง

ถึงแม้คุณจะคิดว่าคุณรู้ว่าคุณมีไวน์อะไรอยู่บ้าง แต่จริง ๆ แล้วคุณอาจจะคิดผิด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ลงทุนไปกับการติดตามสินค้าคงคลังของคุณ เพื่อที่คุณจะไม่ปล่อยให้ไวน์ผ่านช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการดื่ม การปล่อยให้ไวน์ของคุณอยู่นานเกินเวลาที่เหมาะสมไปนั้น มันเป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์อย่างแท้จริงเลยล่ะ

ซอฟต์แวร์

หากคุณมีห้องเก็บไวน์ขนาดใหญ่หรือเก็บไวน์ได้มากกว่าสองถึงสามโหล คุณสามารถใช้แอปพลิเคชั่นหรือซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อติดตามสินค้าคงคลังของคุณได้ คุณสามารถสร้างรายการไวน์ที่คุณมี, จัดเรียงลำดับตามภูมิภาคแหล่งผลิต, ผู้ผลิต, ปีที่ผลิต เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมสำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดื่ม เพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาดมันไป อย่าลืมอัปเดตรายการของคุณเมื่อคุณเปิดมันดื่มแล้วด้วยล่ะ!

การเก็บรักษา

เมื่อคุณทำการสั่งซื้อไวน์ขวดใหม่มาเติมในห้องเก็บไวน์ของคุณ พยายามจัดระเบียบพวกมัน กำหนดพื้นที่ภายในห้องเก็บไวน์ โดยจัดแบ่งตามภูมิภาคแหล่งผลิต, วินเทจหรือปีที่ผลิต, และสายพันธุ์ขององุ่น เป็นต้น พยายามทำให้ทุกอย่างนั้นสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน การรับรู้ว่ามีไวน์อะไรอยู่ในห้องเก็บไวน์บ้างนั้นจะไม่มีประโยชน์มากเลยถ้าหากคุณหาพวกมันไม่เจอ คุณอาจคิดอยู่เสมอว่าคุณจำตำแหน่งที่คุณเก็บไวน์ Brunello เอาไว้ได้ แต่ฉันจะบอกคุณตอนนี้เลยว่าคุณจะจำมันไม่ได้หรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากคุณเพิ่มคอลเล็กชั่นของคุณอยู่เป็นประจำ

การจัดซื้อ

ก่อนที่คุณจะซื้อไวน์แต่ละครั้ง ลองคิดดูว่าทำไมคุณถึงซื้อไวน์ ห้องเก็บไวน์ของคุณมีไว้เพื่อจุดประสงค์อะไร? เป็นการลงทุนเพื่อการขายต่อไวน์ที่จะเพิ่มมูลค่าในอนาคตใช่หรือไม่? เพื่อความสุขในการดื่มของคุณเองใช่หรือไม่? ใช้เป็นเครื่องมือทางการศึกษาเพื่อประเมินหาข้อแตกต่างของผู้ผลิตและปีที่ผลิตใช่หรือไม่? ข้อควรพิจารณาต่อไปนี้จะมีความสำคัญกับคุณมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กลยุทธ์ในการซื้อไวน์เพื่อเก็บไว้ในห้องเก็บไวน์ของคุณ

งบประมาณ

สิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับทุกคนก็คืองบประมาณของพวกเขา ก่อนที่คุณจะเริ่มเก็บไวน์ในห้องเก็บไวน์ของคุณ ลองทบทวนดูว่าคุณต้องการใช้งบประมาณเท่าไรหรือค่าใช้จ่ายในการซื้อไวน์ต่อปีมีมากน้อยแค่ไหน วิธีนี้ช่วยทำให้คุณแน่ใจได้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้งบทั้งหมดที่คุณมีไปกับไวน์แดง Burgundy ราคาแพง 3 ขวดในพริบตา แต่คุณจะสามารถจัดสรรเงินไปกับไวน์แดง, ไวน์ขาว, ไวน์ที่ใช้ดื่มในชีวิตประจำวัน, ไวน์ที่ใช้ดื่มในโอกาสพิเศษและไวน์อื่น ๆ อีกมากมาย และมันยังช่วยสร้างความสมดุลให้กับห้องเก็บไวน์ของคุณอีกด้วย มีเพียงแค่มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดเท่านั้นแหละที่จะสามารถทำการซื้อได้โดยที่ไม่ต้องคิดคำนวณก่อน

ภูมิภาคแหล่งผลิต

คุณต้องการที่จะมีการผสมผสานของไวน์จากหลากหลายภูมิภาคแหล่งผลิตในห้องเก็บไวน์ของคุณ หรือ คุณต้องการที่จะมุ่งเน้นเฉพาะไวน์ที่ผลิตในบางประเทศหรือบางภูมิภาคเท่านั้น? หากเป้าหมายของคุณคือการสร้างห้องเก็บไวน์เพื่อความรู้ คุณเหมาะกับการซื้อไวน์จากหลากหลายภูมิภาคแหล่งผลิต ซึ่งอาจเป็นไวน์จากองุ่นสายพันธุ์เดียวกันแต่มาจากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบคุณสมบัติต่าง ๆ ของไวน์และเรียนรู้เกี่ยวกับตัวแปรต่าง ๆ ของภูมิภาคแหล่งผลิตไวน์ได้ นอกจากนี้มันยังจะช่วยให้คุณได้เรียนรู้ว่าไวน์จากภูมิภาคต่าง ๆ นั้นบ่มแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

หากคุณไม่สนใจที่จะซื้อไว้จากหลากหลายภูมิภาคแหล่งผลิต ดังนั้น คุณควรเลือกแหล่งผลิตที่คุณชื่นชอบมาสัก 4 หรือ 5 ภูมิภาคแหล่งผลิต แล้วมุ่งเน้นไปที่ไวน์จากพื้นที่เหล่านั้น คุณไม่ต้องการมีห้องเก็บไวน์ที่เต็มไปด้วยไวน์ที่ได้มาเพราะมันมีราคาดีแต่เป็นไวน์ที่คุณจะไม่ดื่มมัน เลือกเก็บไวน์สไตล์อื่น ๆ หรือภูมิภาคอื่น ๆ เพิ่มอีกสักสองสามขวดสำหรับเวลาที่คุณมีแขก แต่อย่าเลือกซื้อไวน์ที่คุณจะไม่ดื่มมันโดยเด็ดขาด

ปีที่ผลิต

ปีที่ผลิตนั้นมีความสำคัญอย่างแน่นอน ไม่ว่าคุณจะใช้กลยุทธ์อะไรก็ตาม หากคุณกำลังซื้อไวน์เพื่อการบริโภคของคุณเอง คุณต้องแน่ใจว่าคุณได้ซื้อไวน์ที่มีส่วนผสมที่ดีและพร้อมที่จะบริโภคในตอนนี้ รวมถึงไวน์ที่ต้องใช้เวลาในการบ่มด้วย คุณควรที่จะซื้อไวน์ที่ต้องทำการบ่มและจะครบกำหนดในเวลาที่แตกต่างกันออกไป หากไวน์ในห้องเก็บไวน์ของคุณทั้งหมดต่างถึงกำหนดในเวลาเดียวกัน นั่นไม่เพียงแต่คุณอาจจะต้องใช้เวลารอหลายปี แต่คุณจะมีไวน์จำนวนมากเกินไปที่จะสามารถบริโภคทั้งหมดได้ในครั้งเดียว มันจึงเป็นการดีที่สุดที่จะเริ่มต้นเก็บไวน์ของคุณด้วยการผสมผสานระหว่างปีที่ผลิต รวมถึงไวน์ที่มีศักยภาพในการบ่มที่แตกต่างกัน และทำการเลือกซื้อไวน์ขวดต่อไปด้วยแนวคิดเดียวกันนี้ในอนาคต

หากห้องเก็บไวน์ของคุณคือการลงทุน คุณจะต้องให้ความใส่ใจกับปีที่ผลิต ด้วยเป้าหมายในการเลือกซื้อไวน์ที่ผลิตในปีที่มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมูลค่า  คุณต้องพยายามประเมินว่าไวน์ที่ผลิตขึ้นในปีใดบ้างที่จะมีราคาที่สูงขึ้นและปีใดบ้างที่ราคาจะลดลง และมีแนวโน้มในอนาคตเป็นอย่างไร

หากเป้าหมายของคุณคือเพื่อความรู้และการชิมเพื่อเปรียบเทียบ คุณควรเก็บไวน์ที่ผลิตในปีต่าง ๆ แต่มุ่งเน้นไปที่การรวบรวมไวน์จากปีต่าง ๆ ที่ผลิตขึ้นในภูมิภาคแหล่งผลิตเดียวกัน การชิมไวน์ในแนวตั้งจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงการบ่มไวน์ และช่วยให้คุณเรียนรู้เกี่ยวกับประเภทของไวน์ที่คุณชอบดื่มและจะซื้อต่อไปในอนาคตได้มากขึ้น

ช่วงเวลาในการเปิดขวดไวน์

สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับปีที่ผลิต – เพียงตรวจสอบให้แน่ใจว่า หากคุณกำลังซื้อไวน์ต่าง ๆ ที่ผลิตขึ้นในปีเดียวกันจำนวนมากนั้น คุณต้องซื้อไวน์ที่ครบกำหนดดื่มในเวลาที่ดีที่สุดที่ต่างกันออกไป คุณไม่ต้องการซื้อไวน์ประเภทเดียวกัน 20 ขวด และจากนั้นก็จำเป็นต้องดื่มไวน์ชนิดนี้เป็นเวลาหลายเดือน เพราะไม่อยากทิ้งมันไป พยายามสร้างความสมดุลของจำนวนไวน์ที่พร้อมดื่มในช่วงเวลาต่าง ๆ ที่หลากหลายให้กับห้องเก็บไวน์ของคุณ

ศักยภาพในการเพิ่มมูลค่า

คุณควรพิจารณาถึงประเด็นนี้เฉพาะในกรณีที่คุณวางแผนที่จะขายไวน์ของคุณต่อในอนาคตเท่านั้น อย่าซื้อไวน์ที่เกินงบประมาณของคุณหรือคุณไม่ได้วางแผนที่จะดื่มมัน เพียงเพราะว่าราคาของไวน์นั้นมีแนวโน้มสูงขึ้น การขายไวน์สามารถเกิดขึ้นได้จริงต่อเมื่อมีการเก็บไวน์ไว้ในสภาวะที่เหมาะสมที่สุด, สามารถตรวจสอบประวัติการซื้อได้, และมันต้องใช้เวลาและความพยายามในการขาย มีไวน์บางขวดที่มีการเพิ่มมูลค่ามากพอและคุ้มค่ากับต้นทุนการจัดเก็บในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลตอบแทนการลงทุนที่คุ้มค่า สำหรับผู้ซื้อส่วนใหญ่แล้วคุณควรซื้อไวน์ที่คุณวางแผนว่าจะดื่มมันด้วยตัวของคุณเอง

จำนวน

ฉันควรซื้อไวน์จำนวนเท่าไหร่ดี? สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการบริโภคของคุณเอง แต่โดยทั่วไปแล้ว ฉันไม่แนะนำให้ซื้อไวน์เพียงหนึ่งขวดเพื่อเก็บไว้ในห้องเก็บไวน์ของคุณ ลองนึกภาพดูว่าคุณจะผิดหวังมากแค่ไหน หากคุณได้บ่มไวน์ขวดนึงไว้เป็นเวลา 5, 10 หรือ 25 ปี แล้วพบว่าไวน์ขวดนั้นมีกลิ่นของจุกไม้ก๊อกหรือมีกลิ่นอับ ฉันขอแนะนำให้ซื้อไวน์เพิ่มทีละ 3, 6 หรือ 12 ขวด การมีไวน์หลายขวดช่วยให้คุณได้ลิ้มรสมันได้ตลอดกระบวนการบ่ม และช่วยให้ช่วยให้คุณค้นพบว่าไวน์มีการพัฒนาอย่างไรและคุ้มค่าที่จะซื้อขวดต่อไปหรือไม่

หากคุณกำลังซื้อไวน์เพื่อการลงทุน ฉันขอแนะนำให้คุณซื้อไวน์ 6 หรือ 12 ขวด หรือซื้อไว้เยอะ ๆ การขายแบบหลายขวดนั้นง่ายกว่าการขายแบบขวดเดียว

การหมุนขวด

โปรดจำไว้ว่าไวน์ที่คุณมีอยู่ในห้องเก็บไวน์ของคุณควรที่จะถูกหมุนอยู่เป็นประจำ ไวน์บางขวดจะถูกเอาออกไป ในขณะที่ขวดอื่นเพิ่มเข้ามา อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าการหมุนขวดของคุณนั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

ฤดูกาล

ผู้บริโภคจำนวนมากเปลี่ยนนิสัยการดื่มของพวกเขาตามฤดูกาล ในช่วงที่อากาศร้อนจัดของปี คุณอาจจะบริโภคไวน์ใหม่ที่มีรสชาติสดชื่น เช่น ไวน์ขาวและไวน์โรเซ่มากกว่าปกติ ในขณะที่ฤดูหนาวนั้นเป็นช่วงเวลาสำหรับไวน์แดงซึ่งมีรสสัมผัสที่หนักกว่าที่คุณได้บ่มเอาไว้ อย่าลืมหาไวน์ขาวรสชาติสดชื่นมาเก็บไว้ในห้องเก็บไวน์ของคุณล่ะ ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะไม่มีไวน์เพื่อดื่มด่ำในช่วงที่ร้อนที่สุดของปี! บ่อยครั้งที่เรามักซื้อไวน์มาเพื่อทำการบ่ม และลืมซื้อไวน์พร้อมดื่มมาเก็บไว้ในห้องเก็บไวน์ของเรา

การเปลี่ยนสต็อกไวน์ – สินค้าคงคลังเหลือเท่าไหร่จึงจะเติมไวน์ใหม่?

มีเพียงไม่กี่กรณีที่จะต้องพิจารณานั่นก็คือ จำนวนของไวน์ที่เหลืออยู่ถูกจำกัดโดยขึ้นอยู่กับพื้นที่ว่างสำหรับการจัดเก็บไวน์ และมันยังสามารถขึ้นอยู่กับอายุของผู้สะสมไวน์ด้วย เนื่องจากการเก็บสะสมไวน์แบบจริงจังต้องใช้เวลาหลายทศวรรษในการสะสม ดังนั้น มันจึงอาจใช้เวลาหลายสิบปีในการดื่มด้วยเช่นกัน มันเป็นเรื่องที่ต้องตั้งคำถามว่าในช่วงท้ายของชีวิตของคุณนั้น คุณวางแผนที่จะทิ้งห้องเก็บไวน์ของคุณเอาไว้โดยที่มีไวน์อยู่เต็มห้อง หรือ คุณอาจต้องตัดสินใจว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะเริ่มลดจำนวนสินค้าคงคลังของคุณลง และเติมไวน์ใหม่น้อยลงเรื่อย ๆ 

กิจกรรมอื่น ๆ เช่น การย้ายที่อยู่อาศัยหรือการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต อาจส่งผลต่อความต้องการหรือความเป็นไปได้ในการเก็บสินค้าคงคลังขนาดใหญ่ อย่าซื้อไวน์เกินกว่าที่คุณดื่มได้และจบด้วยการไม่ดื่มมัน หรือต้องพยายามขายมันออกไป หากนนั่นไม่ใช่ความตั้งใจของคุณ

ข้อสรุป

ถ้าหากคุณไม่มีกลยุทธ์ก่อนที่จะเริ่มสะสมคอลเล็กชั่นไวน์ของคุณ การจัดการห้องเก็บไวน์ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนได้ คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับประเภทของคอลเล็กชั่นที่คุณต้องการ รวมถึงวิธีการจัดระเบียบมันก่อนที่คุณจะเริ่มซื้อไวน์มากเกินไป ห้องเก็บไวน์ที่ไม่ได้ถูกจัดระเบียบและไม่ได้มีการวางแผนล่วงหน้าสามารถนำไปสู่การสูญเสียทั้งเงินและไวน์ได้ ถ้าหากไวน์ถูกเก็บไว้อย่างไม่เหมาะสมหรือถูกลืมจนไวน์นั้นผ่านช่วงที่ดีที่สุดในการดื่ม เชื่อเถอะว่าการวางแผนล่วงหน้าเพียงเล็กน้อยจะช่วยให้คุณสะดวกสบายมากขึ้นในระยะยาว